การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติจากการประมวลของ World Economic Forum (A Vision for Managing Natural Disaster Risk, April 2011) ได้จำแนกระยะของการดำเนินการออกเป็น 4 ขั้น คือ การลดหรือการบรรเทาความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Reduction/Mitigation) การตระเตรียมความพร้อม (Readiness/ Preparedness) การตอบสนอง (Response) และการฟื้นฟูจากภัยพิบัติ (Recovery)
บทบาทของภาคีผู้มีส่วนได้เสียต่อการรับมือกับภัยพิบัติ
แน่นอนว่า บทบาทในการรับมือกับภัยพิบัติ มิได้จำกัดอยู่เพียงแค่ภาครัฐ แต่เกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วนในสังคม ที่รวมถึงภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และภาควิชาการ ตลอดจนประชาคมนานาชาติ เพียงแต่ระดับของการมีส่วนร่วมในแต่ละระยะจะมีความแตกต่างกันออกไป
อุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ณ ขณะนี้ กำลังเข้าระยะของการตอบสนอง (Response) ที่ซึ่งบทบาทของภาครัฐและภาคประชาสังคม (หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครในด้านต่างๆ) มีความสำคัญที่สุด และที่เราได้รับข้อมูลเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คือ การยื่นมือเข้าร่วมช่วยเหลือจากประชาคมนานาชาติ ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางการรับมือกับภัยพิบัติที่เป็นสากลนั่นเอง
สำหรับภาคธุรกิจ ความช่วยเหลือในระยะนี้ จะอยู่ในรูปของการบริจาคเงิน สิ่งของเครื่องใช้ โดยเฉพาะที่เป็นปัจจัยสี่ จะมีความสำคัญ ทั้งนี้ บทบาทของภาคธุรกิจจะทวีความสำคัญมากขึ้นในช่วงของการฟื้นฟู (Recovery) ที่ซึ่งความช่วยเหลือจะแปรสภาพจากการบริจาคไปเป็นความช่วยเหลือในรูปแบบอื่น เช่น การซ่อมแปลงหรือสร้างใหม่ (Rebuild) ในบริเวณที่ได้รับความเสียหาย การถอนย้ายหรือการหลบหลีก (Retreat) มายังพื้นที่ใหม่
โปรดระลึกว่า “ธุรกิจไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในสังคมที่ล้มเหลว” (Business cannot succeed in a society that fails...(จากคอลัมน์ หน้าต่าง CSR) [Archived]
No comments:
Post a Comment