ในปีนี้ สถาบันไทยพัฒน์ ได้มีความร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟ เพื่อรณรงค์ ให้บริษัทที่มีถิ่นฐานการดำเนินงานในประเทศไทย ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก ทั้งในสถานประกอบการ (Workplace) บทบาทในตลาด (Marketplace) และบทบาทในชุมชนและสิ่งแวดล้อม (Community and Environment) โดยอ้างอิงหลักการ CRBP ซึ่งประกอบด้วย 10 หลักการสำคัญ ได้แก่
หลักการที่ 1 | เคารพสิทธิเด็กและให้คำมั่นที่จะสนับสนุนสิทธิเด็ก |
หลักการที่ 2 | สนับสนุนการขจัดปัญหาแรงงานเด็กในการดำเนินงานและการติดต่อทางธุรกิจ |
หลักการที่ 3 | จัดหางานที่มีคุณค่าให้แก่คนงานที่เป็นเยาวชน ตลอดจนพ่อแม่ และผู้ดูแลเด็ก |
หลักการที่ 4 | คำนึงถึงความคุ้มครองและความปลอดภัยของเด็กในสถานประกอบการและการดำเนินธุรกิจ |
หลักการที่ 5 | ทำให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์และบริการมีความปลอดภัยและมีการส่งเสริมความตระหนักเกี่ยวกับสิทธิเด็กผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ |
หลักการที่ 6 | ใช้สื่อโฆษณาและการตลาดในทางที่เคารพและส่งเสริมสิทธิเด็ก |
หลักการที่ 7 | เคารพและส่งเสริมสิทธิเด็ก เมื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม การถือครองและการใช้ประโยชน์จากที่ดิน |
หลักการที่ 8 | คำนึงถึงสิทธิเด็ก ในการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ |
หลักการที่ 9 | ช่วยคุ้มครองเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติต่างๆ |
หลักการที่ 10 | หนุนเสริมบทบาทของรัฐและชุมชนในการคุ้มครองและเติมเต็มสิทธิเด็ก |
เป้าประสงค์ของสถาบันไทยพัฒน์และองค์การยูนิเซฟภายใต้ความริเริ่มนี้ เพื่อต้องการยกระดับกิจกรรมความช่วยเหลือที่องค์กรธุรกิจดำเนินการแก่เด็กและเยาวชน จากแนวคิดบนฐานของการทำการกุศล (Charity-based) สู่การทำงานโดยใช้แนวคิดฐานสิทธิ (Rights-based) ที่ขับเคลื่อนด้วยกระบวนงานหลักทางธุรกิจ (Core Business) แทนการจัดกิจกรรมเฉพาะกิจเป็นรายครั้ง (Event) โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
ระยะที่หนึ่ง: กิจกรรมสำหรับผู้บริหาร ในรูปแบบ Sharing and Discussion เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิเด็กและหลักปฏิบัติทางธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย 10 หลักการสำคัญข้างต้น การหารือเพื่อพิจารณาแนวทางในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก และวิธีการที่องค์กรธุรกิจจะสามารถนำสิทธิเด็กไปกำหนดไว้ในนโยบายและจรรยาบรรณทางธุรกิจ
ระยะที่สอง: กิจกรรมสำหรับผู้ดูแลงานด้าน CSR และผู้ปฏิบัติงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็ก ในรูปแบบ Training and Workshop เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการประเมินผลการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก รวมทั้งการค้นหาโอกาสในการสนับสนุนสิทธิเด็กตามหลักปฏิบัติทางธุรกิจ ตลอดจนขอบเขตการปฏิบัติงานที่บริษัทสามารถนำสิทธิเด็กไปผสมผสานเข้ากับนโยบายทางธุรกิจและกระบวนการบริหารจัดการองค์กร
ระยะที่สาม: กิจกรรมสำหรับผู้จัดทำข้อมูลและการรายงาน ในรูปแบบ Coaching and Exercise เพื่อชี้แนะแนวทางในการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลการดำเนินงานที่เกี่ยวกับเด็ก บูรณาการเข้าไว้ในการรายงานแห่งความยั่งยืน ตามกรอบสากลของ GRI โดยครอบคลุมมากกว่าการใช้แรงงานเด็กและการให้ความช่วยเหลือในชุมชน
โดยวิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับหนังสือ “เด็กเป็นเรื่องของทุกคน” Workbook ฉบับ 2.0 การอบรมให้ความรู้ (Training) เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับเด็ก และการอบรมแนะนำ (Coaching) เกี่ยวกับกระบวนการเขียนรายงานตามกรอบมาตรฐาน GRI (Global Reporting Initiative) ในส่วนของรายละเอียดข้อมูลการดำเนินงานที่เกี่ยวกับเด็ก ณ สถานประกอบการ
ทั้งนี้ วิสาหกิจที่ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 3 ระยะ จะได้รับประกาศนียบัตรจากสถาบันไทยพัฒน์ โดยการสนับสนุนขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ด้วย
องค์กรธุรกิจที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อเข้าร่วมโครงการ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ http://www.thaipat.org ได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...(จากคอลัมน์ หน้าต่าง CSR) [Archived]