ในเอกสาร Sustainable Development Report 2023 ฉบับพิเศษ ได้เปิดเผยตัวเลขความคืบหน้าครึ่งทางการใช้ SDG จากการประมวลข้อมูลราว 140 เป้าหมาย พบว่า สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายเพียง 12% โดยเป้าหมายกว่าครึ่งมีความคืบหน้าเล็กน้อยหรือหลุดเป้า ขณะที่เป้าหมายอีกเกือบหนึ่งในสาม ไม่มีความเคลื่อนไหวหรือถดถอยลงต่ำกว่าเส้นฐานในปี ค.ศ.2015
สาเหตุมาจากผลพวงของความไม่ยุติธรรมในระดับโลกที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ประกอบกับผลกระทบจากสภาพภูมิกาศ โรคโควิด-19 และความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจที่ไปจำกัดประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกให้เหลือทางเลือกน้อยลง หรือทำให้ไม่มีทรัพยากรที่เพียงพอต่อการทำให้เป้าหมายเป็นจริงขึ้นได้
ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ได้มีการคำนวณต้นทุนที่จะต้องใส่เพิ่มเพื่อเร่งการบรรลุเป้าหมาย SDG สำหรับเป็นแนวทางการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลในแต่ละประเทศทั่วโลก ไว้ที่จำนวน 2.35 ล้านล้านเหรียญ ใน 7 วิถี (Pathway) ได้แก่ การแปลงเป็นดิจิทัล ความเสมอภาคทางเพศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบบอาหาร การคุ้มครองทางสังคม การเปลี่ยนผ่านพลังงาน และการปฏิรูปการศึกษา ตามลำดับ
สำหรับความคืบหน้าการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของกิจการในประเทศไทย สถาบันไทยพัฒน์ ได้ทำการสำรวจข้อมูลสถานภาพความยั่งยืนของกิจการทุกปี โดยเริ่มดำเนินการในปี ค.ศ.2018 เป็นปีแรก และเผยแพร่เป็นเอกสาร รายงานสถานภาพความยั่งยืนของกิจการ เป็นประจำทุก ๆ 2 ปี
การสำรวจข้อมูลในปี ค.ศ.2022 ครอบคลุมทุกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และกิจการที่อยู่นอกตลาดฯ รวมทั้งสิ้น 854 กิจการ โดยทำการประมวลข้อมูลการดำเนินงานของกิจการที่มีการตอบสนองต่อ SDG ตามแนวทาง GCI (Guidance on Core Indicators) ที่จัดทำโดยคณะทำงานผู้ทรงคุณวุฒิระหว่างรัฐบาลด้านมาตรฐานระหว่างประเทศว่าด้วยการบัญชีและการรายงาน (ISAR) พบว่า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่กิจการมีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานสูงสุดในสามอันดับแรก ได้แก่ เป้าหมายที่ 5 ความเท่าเทียมทางเพศ เป้าหมายที่ 8 เศรษฐกิจและการจ้างงาน และเป้าหมายที่ 16 สังคมและความยุติธรรม ตามลำดับ
โดย 10 ตัวชี้วัดหลัก GCI ซึ่งใช้ตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่มีการเปิดเผยสูงสุด ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ยอดรายได้ และภาษีและเงินอื่นที่จ่ายแก่รัฐ ด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ประสิทธิภาพการใช้น้ำ ด้านสังคม ได้แก่ ชั่วโมงเฉลี่ยการฝึกอบรมต่อปีต่อคน และสัดส่วนค่าจ้างและสวัสดิการพนักงานต่อรายได้จำแนกตามชนิดการจ้างและมิติหญิงชาย และด้านสถาบัน ได้แก่ จำนวนครั้งของการประชุมคณะกรรมการและอัตราการเข้าร่วมประชุม จำนวนและร้อยละของกรรมการหญิง ช่วงอายุของกรรมการ จำนวนครั้งของการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและอัตราการเข้าร่วมประชุม และค่าตอบแทนรวมต่อกรรมการ
ภาพรวมการตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของกิจการไทยที่ทำการสำรวจ 854 ราย พบว่า มีความคืบหน้าในการดำเนินงานอยู่ที่ 28.2% อ้างอิงจากการเปิดเผยข้อมูลตามรายการและตัวชี้วัดหลัก GCI โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดำเนินการได้สูงสุดในสามอันดับแรก ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร (33.7%) กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (33%) และกลุ่มธุรกิจการเงิน (30%) ตามลำดับ
ทั้งนี้ ชุดตัวชี้วัดหลัก GCI ที่ ISAR จัดทำขึ้นภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (ECOSOC) ซึ่งมีอังค์ถัดทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นจุดตั้งต้นหรือจุดนำเข้าในการรายงานผลการดำเนินงานที่ตอบสนองต่อ SDG และถือเป็นการเปิดเผยข้อมูลขั้นต่ำ (Minimum Disclosures) ของกิจการ ที่แสดงถึงการมีส่วนในการตอบสนองต่อ SDG และเป็นตัวชี้วัดที่กิจการจำเป็นต้องใช้ในการประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ซึ่งหาพบได้ในรายงานของกิจการ และในกรอบการรายงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
การอ้างอิงชุดตัวชี้วัด GCI จะช่วยให้ภาคธุรกิจแสดงความเชื่อมโยงของการดำเนินงานในการตอบสนองต่อ SDG ในระดับตัวชี้วัด (Indicator-level) ตามแนวทางที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา และสามารถใช้เป็นข้อมูลแสดงความก้าวหน้าของการดำเนินงานตามตัวชี้วัด SDG ที่ 12.6.1 ในส่วนของกิจการได้อีกด้วย
องค์กรธุรกิจที่สนใจเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานที่มีการตอบสนองต่อ SDG ตามแนวทาง GCI สามารถศึกษารายละเอียดได้จากเอกสาร Guidance on Core Indicators for Sustainability and SDG Impact Reporting ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี ค.ศ.2022 โดยดาวน์โหลดได้ที่ https://unctad.org/isar
จากบทความ 'Sustainpreneur' ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
