สัปดาห์ที่ผ่านมา (11-13 พฤศจิกายน) Foundation Strategy Group (FSG) ผู้ที่ริเริ่ม Shared Value Initiative ได้จัดอบรมที่ปรึกษาในเครือข่ายจำนวน 12 องค์กร จาก 11 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สเปน เบลเยียม อินเดีย เยอรมนี ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา ตุรกี อิตาลี ชิลี และไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยองค์กรที่ปรึกษาจากประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมอบรม คือ บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท แอสเปค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
การจัดอบรมครั้งนี้นับเป็นรอบที่ 4 โดยมีวิทยากรนำการอบรม คือ "Mark R. Kramer" หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Foundation Strategy Group ร่วมกับ "Michael E. Porter" เจ้าของแนวคิด Creating Shared Value (CSV) ที่ภาคเอกชนได้นำมาใช้ขับเคลื่อนเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างกว้างขวาง
หนึ่งในหัวข้อที่ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนในการอบรม คือ การช่วยเหลือองค์กรในการระบุโอกาสแห่งการสร้างคุณค่าร่วม โดยใช้เครื่องมือ SVOI (Shared Value Opportunity Identification) ที่ FSG และ Shared Value Initiative ได้พัฒนาขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มีทั้งที่เป็นการสร้างและการทำลายคุณค่า ส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้างและสภาพแวดล้อมที่อยู่รายรอบ ในหลายกรณี ผลกระทบถูกถ่ายทอดไปยังผู้คนที่อยู่ไกลออกไป รวมทั้งระบบนิเวศโดยรวม เช่น ความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศ ผลักดันให้เกิดการเสาะหาแหล่งเชื้อเพลิงสำรอง เกิดเป็นโครงการสำรวจและผลิตนอกชายฝั่ง การขนถ่ายเชื้อเพลิงที่มีโอกาสหกรั่วไหลสู่สภาพแวดล้อม เสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายให้แก่ระบบนิเวศ ซึ่งเกิดเป็นกรณีอยู่เนืองๆ
ตัวอย่างที่ยกขึ้นมานี้ มิได้ต้องการนำไปสู่การระงับหรือยกเลิกกิจกรรมทางธุรกิจที่มีส่วนในการสร้างคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจ หรือการรักษาความมั่นคงของประเทศ เพื่อแลกกับความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น แต่ต้องการชี้ให้เห็นถึงการสร้างคุณค่าที่ต้องดำเนินควบคู่กับการป้องกันความเสี่ยงต่อเหตุการณ์หรือการดำเนินงานที่อาจส่งผลเสียต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือที่ดีไปกว่านั้น คือ ใช้โอกาสที่กิจการได้รับ สร้างให้เกิดเป็นกิจกรรมที่สามารถส่งมอบคุณค่าร่วมกันระหว่างธุรกิจและสังคมไปพร้อมกัน
SVOI เป็นเครื่องมือสำหรับองค์กรในการระบุโอกาสที่นำไปสู่การสร้างคุณค่าร่วม ด้วยการพิจารณาประเด็นทางสังคมที่ธุรกิจได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือที่ประสงค์จะเข้าไปเกี่ยวข้อง บนเงื่อนไขที่องค์กรสามารถใช้ความเชี่ยวชาญหรือสินทรัพย์ที่มีอยู่ในการดำเนินการกับประเด็นดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดเป็นประสิทธิผลในเชิงคุณค่าทั้งแก่ธุรกิจและสังคมไปพร้อมกัน
เครื่องมือ SVOI นี้ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการค้นหาโอกาสการส่งมอบคุณค่าทั้งที่อยู่ในรูปของตัวเงินและที่มิได้อยู่ในรูปของตัวเงิน โดยไม่ได้จำกัดว่าผลลัพธ์หรือคุณค่าที่ส่งมอบนั้น จะต้องนำมาคำนวณเพื่อหาผลตอบแทนที่เป็นมูลค่าหรือตัวเงินเท่านั้น
ตัวอย่างของคุณค่าทางธุรกิจที่ได้รับ ได้แก่ ยอดรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น การเติบโตของตลาด ต้นทุนลดลง การมีแหล่งจัดหาที่มั่นคง ผลิตภาพดีขึ้น คุณภาพดีขึ้น โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการกระจายสินค้าและบริการดีขึ้น ระดับการเข้าถึงแรงงานสูงขึ้น ขีดความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น
ตัวอย่างของคุณค่าทางสังคมที่ได้รับ ได้แก่ ยอดการใช้พลังงานลดลง ยอดการใช้น้ำลดลง ยอดการใช้วัตถุดิบลดลง ทักษะในการทำงานดีขึ้น รายรับของพนักงานดีขึ้น ระบบการดูแลผู้ป่วยได้รับการปรับปรุง ปริมาณรอยเท้าคาร์บอนลดลง โภชนาการที่ดีขึ้น การศึกษาที่ดีขึ้น การสร้างงานเพิ่มขึ้น สุขภาวะที่ดีขึ้น เป็นต้น
องค์กรที่กำลังริเริ่มนำการสร้างคุณค่าร่วมมาพัฒนาเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แก้โจทย์หรือปัญหาทางสังคมไปพร้อมกัน สามารถใช้ประโยชน์จากการระบุโอกาสที่นำไปสู่การสร้างคุณค่าร่วมด้วยเครื่องมือ SVOI มาช่วยองค์กรในการค้นหาและคัดกรองประเด็นที่มีศักยภาพต่อการสร้างคุณค่าร่วม เพื่อนำมาพัฒนาเป็นความริเริ่มด้าน CSV ที่เหมาะสมกับองค์กร สอดคล้องกับแง่มุมความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ พร้อมด้วยแนวทางการระบุผลลัพธ์ทางธุรกิจและทางสังคมที่คาดว่าจะได้รับอย่างเป็นรูปธรรม
ในโอกาสที่บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท แอสเปค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้เข้าร่วมรับการอบรมจาก FSG และ Shared Value Initiative ในครั้งนี้ จึงได้จัดสัมมนาในหัวข้อ “CSV Affiliate Experiences 2014” ให้แก่องค์กรธุรกิจที่สนใจ เพื่อเข้าร่วมรับฟังการ Update ข้อมูลความเคลื่อนไหวล่าสุดเพื่อสร้างสรรค์งาน CSV ให้กับกิจการ ในวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.00 - 17.00 น. ณ ห้องกรุงเทพ 2 โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eai.co.th...(จากคอลัมน์ หน้าต่าง CSR) [Archived]
Thursday, November 20, 2014
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment