Thursday, June 12, 2014

ไต่บันไดต้านทุจริต

ความท้าทายในการต่อต้านการทุจริตที่ภาคธุรกิจประสบและจำเป็นต้องใช้ความกล้าหาญในการตัดสินใจ คือ การที่บริษัทตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกต่อการถูกเรียกสินบนเพื่อแลกกับสัญญางาน หรือถูกเรียกค่าอำนวยความสะดวกเพื่อแลกกับความรวดเร็วในขั้นตอนการติดต่อและอนุมัติของทางราชการ ซึ่งหากไม่ตอบสนอง ก็จะต้องสูญเสียงานหรือได้รับความล่าช้าทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจในมูลค่าที่สูงกว่า

จุดเริ่มต้นของการต่อต้านการทุจริตในองค์กรธุรกิจที่จะส่งประสิทธิผลในบั้นปลาย คือ การมีเจตจำนงอันแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจที่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เริ่มจากตนเองและในองค์กรของตนเอง

เริ่มจากผู้นำองค์กร
การปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่างโดยผู้นำองค์กร (Tone at the top) ต่อการนำนโยบายการต่อต้านการทุจริตมาดำเนินการอย่างจริงจัง จะเป็นแรงส่งให้บุคลากรในองค์กรดำเนินรอยตาม สร้างความเชื่อมั่นให้แก่พนักงานที่จะร่วมแรงร่วมใจในการต่อต้านการทุจริตไปด้วยกัน แม้ในกรณีที่บริษัทจะต้องสูญเสียโอกาสหรือสูญเสียงานเพราะเหตุที่ไม่จ่ายสินบนหรือไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตก็ตาม

ภาวะผู้นำในการดำเนินการที่เป็นแบบอย่าง ไม่ได้หมายถึงเพียงการสื่อสารอย่างแข็งขันจากเบื้องบน แต่รวมถึงการปฏิบัติหรือนำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ผู้บริหารสามารถดำเนินการได้ทั้งในรูปแบบที่เป็นบันทึกภายในเพื่อแจ้งให้แก่พนักงาน สารจากประธานกรรมการ คำประกาศของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สุนทรพจน์ของหัวหน้าหน่วยงานในที่ประชุม ถ้อยแถลงในรายงานแห่งความยั่งยืนหรือในรายงานอื่นๆ ของบริษัท การดำเนินตามนโยบายของฝ่ายบริหาร กิจกรรมของผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัท เป็นต้น

สร้างบันไดเชื่อมสู่พนักงาน
การให้คำมั่นในการดำเนินธุรกิจที่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในทุกรูปแบบ เป็นบันไดขั้นสำคัญขององค์กรที่จะนำมาสู่การแปลงให้เป็นข้อปฏิบัติเพื่อดำเนินการ คำมั่นและนโยบายที่บริษัทประกาศ หากปราศจากการนำไปปฏิบัติ บริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากการทุจริตที่ทำให้บริษัทอาจละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การกำกับดูแลของฝ่ายบริหารเพื่อให้เกิดการนำนโยบายไปปฎิบัติทั่วทั้งองค์กรโดยมิให้มีข้อยกเว้นหรือข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ถือเป็นบันไดสำคัญขั้นที่สองที่จะนำไปสู่การบริหารบุคลากรให้มีแรงจูงใจ ความเข้าใจ ทักษะและการปฏิบัติที่สอดคล้องกับคำมั่นและนโยบายต่อต้านการทุจริตของบริษัท

บริหารเงื่อนไขความสำเร็จ
การสื่อสารและฝึกอบรมแก่พนักงานเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติในการต่อต้านทุจริต เป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะพิสูจน์ว่า บริษัทสามารถวางรากฐานการดำเนินธุรกิจที่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตได้ดีเพียงใด การสื่อสารที่มีประสิทธิผลจะช่วยถ่ายทอดนโยบายต่อต้านการทุจริตในระดับองค์กรลงสู่การปฏิบัติที่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในระดับบุคคล

พนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเพียงพอจะสามารถนำแนวปฏิบัติไปดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย และรับทราบถึงกฎระเบียบกฎเกณฑ์ของการดำเนินการทางวินัย หากมีการละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตาม จนเกิดเป็นค่านิยมขององค์กร

นอกจากนี้ การสื่อสารและฝึกอบรมภายในองค์กร เมื่อเป็นที่รับรู้สู่ภายนอก จะกลายเป็นตัวสารที่มีความหนักแน่นในตัวเอง ในอันที่จะบ่งบอกถึงข้อยึดมั่นขององค์กรต่อการต่อต้านการทุจริตไปโดยปริยาย

การติดตามผลและการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้บริษัทสามารถคงแผนงานการต่อต้านการทุจริตให้มีความเป็นปัจจุบันและสนองตอบต่อความประสงค์ของบริษัทอยู่เสมอ รวมทั้งยังเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงคำมั่นและการมีส่วนร่วมของผู้บริหารระดับสูงต่อการดำเนินนโยบายการต่อต้านการทุจริต ตลอดจนการจัดสรรทรัพยากรที่เพียงพอในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายดังกล่าวด้วย...(จากคอลัมน์ หน้าต่าง CSR) External Link [Archived]

No comments: