การเพิกเฉยต่อความเสี่ยงเหล่านี้ อาจทำให้เศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับต้นทุนมหาศาล ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง 38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ค.ศ. 2050 หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ทั่วโลก
ในรายงาน The Disclosure Dividend 2025 ของ CDP ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทกว่า 24,800 แห่ง ที่ครอบคลุมมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดถึงสองในสามของตลาดโลก ได้เผยให้เห็นว่า ภาคธุรกิจที่เริ่มตระหนักและลงมือจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้อย่างจริงจัง จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่ง CDP เรียกสิ่งนี้ว่า อานิสงส์จากการเปิดเผยข้อมูล
ผลกระทบจากความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมได้เริ่มกัดกร่อนประสิทธิภาพทางการเงินของธุรกิจแล้วในหลายอุตสาหกรรม เช่น ในภาคการเกษตรของสหภาพยุโรปกำลังประสบปัญหาขาดทุนถึง 28,000 ล้านยูโรในแต่ละปีจากเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง หรือการที่ราคาโกโก้ในตลาดโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตโกโก้ราว 80% ของโลก หรือภัยแล้งในไต้หวันได้ทำให้โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้องปิดทำการและจำเป็นต้องขนส่งน้ำเข้ามาด้วยรถบรรทุก นอกจากนี้ ค่าเบี้ยประกันภัยในสหรัฐอเมริกาก็เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 อันเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมหาศาลในการรับมือกับภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ
สถานการณ์เหล่านี้ ล้วนเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ความเปราะบางด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทั้งบริษัทและผู้บริโภคในทุกห่วงโซ่อุปทาน การสร้างภาวะพร้อมผัน (resilience) ให้กับธุรกิจจึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน โดยข้อมูลจาก CDP พบว่ากว่า 90% ของบริษัทขนาดใหญ่ได้เริ่มมีกระบวนการในการระบุและประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านสิ่งแวดล้อมของตนแล้ว ซึ่งจากข้อมูลที่เปิดเผย พบว่า 67% ของบริษัทขนาดใหญ่และ SMEs ระบุว่าความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกระบุนั้นมีผลกระทบทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ
โดยความเสี่ยงที่ถูกประเมินว่ามีผลกระทบสูงสุดคือ ความเสี่ยงด้านนโยบาย (28%) ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านการกำหนดราคาคาร์บอน มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงกฎหมายระดับประเทศ ตามมาด้วยความเสี่ยงทางกายภาพแบบฉับพลัน (19%) เช่น น้ำท่วม ไฟป่า หรือภัยแล้ง และความเสี่ยงทางกายภาพแบบเรื้อรัง (14%) เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น คุณภาพน้ำที่ลดลง หรือการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน
ทั้งนี้ การจัดการความเสี่ยงเหล่านี้อย่างเหมาะสม นอกจากจะเป็นการป้องกันความเสียหายแล้ว ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากต้นทุนในการแก้ไขปัญหามีมูลค่าต่ำกว่าผลกระทบทางการเงินในระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้นได้ถึงหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อานิสงส์จากการเปิดเผยข้อมูล มิได้หมายความเพียงการลดความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลตอบแทนที่บริษัทได้รับจากการลงทุนในการเปิดเผยข้อมูลและลงมือจัดการกับความเสี่ยง โดยผลตอบแทนที่ได้รับมีทั้งในรูปตัวเงินและที่มิใช่ตัวเงิน ซึ่งเกิดจากความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การสร้างภาวะพร้อมผันทางธุรกิจ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
การเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมช่วยให้บริษัทเข้าใจความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่และสามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างโมเดลธุรกิจที่พร้อมผัน เหนือไปกว่านั้น คือ การช่วยให้บริษัทเติบโตในระยะยาว ช่วยให้บริษัทตัดสินใจได้ดีขึ้น เพิ่มการดึงดูดเม็ดเงินลงทุน เตรียมพร้อมรับมือกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป และยังช่วยระบุแหล่งรายได้ใหม่ ๆ โดยบริษัทที่ตระหนักและลงมือลดความเสี่ยงแล้ว จะสามารถเข้าถึงโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก CDP ชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีโอกาสมากมายในเศรษฐกิจสีเขียว แต่บริษัทมากกว่าครึ่งยังคงมิได้นำเสนอสินค้าหรือบริการที่ปล่อยคาร์บอนต่ำหรือใช้น้ำน้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้จะมีการตระหนักถึงปัญหา แต่การเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น บริษัทจำนวนมากยังคงขาดวิสัยทัศน์แบบองค์รวมในการจัดการกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ทำให้พลาดโอกาสในการได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่
รายงานของ CDP ยังเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉลี่ยแล้ว 75% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกิจการมาจากผู้ส่งมอบ และยังมีความต้องการน้ำสูงในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งมักมาจากประเทศที่เผชิญภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ดังนั้น การมีส่วนร่วมกับผู้ส่งมอบ จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างภาวะพร้อมผันทางธุรกิจ การทำความเข้าใจการดำเนินงานของห่วงโซ่คุณค่า และสร้างจูงใจให้ผู้ส่งมอบปฏิบัติอย่างยั่งยืน จะช่วยลดผลกระทบจากแรงกระแทกต่าง ๆ ได้
แม้ว่าแรงจูงใจทางการเงินจะเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แต่มีเพียง 11% ของกิจการที่เสนอแรงจูงใจทางการเงินแก่ผู้ส่งมอบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม การวิจัยของ CDP พบว่าผู้ส่งมอบที่ได้รับแรงจูงใจทางการเงินมีแนวโน้มที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าผู้ส่งมอบที่ได้รับเพียงการฝึกอบรมถึง 52%
ข้อมูลจากรายงานฉบับนี้ ตอกย้ำถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน โดยที่การเปิดเผยข้อมูลมิได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความโปร่งใสอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ เหตุผลทางการเงินสำหรับการลงมือปฏิบัติเพื่อสิ่งแวดล้อมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บริษัทซึ่งนำข้อมูลที่เปิดเผยไปใช้ในการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่จับต้องได้ โดยอานิสงส์ที่แท้จริงมิได้อยู่ที่การรับรู้เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกให้กลายเป็นผลกระทบที่แท้จริง
กิจการจำต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้าง ครอบคลุมทั้งการตระหนักรู้ การลงมือปฏิบัติ และการเติบโต เพื่อการปลดล็อกให้เกิดเป็นอานิสงส์อย่างเต็มที่ โดยรายงานของ CDP ได้ให้ข้อแนะนำหลัก ๆ เพื่อสร้างภาวะพร้อมผันทางธุรกิจที่ประกอบด้วย การจัดทำกระบวนการเพื่อจัดการกับความสัมพันธ์และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่า การทำความเข้าใจความเสี่ยงและโอกาสทั้งในแง่ของทำเลที่ตั้งและผลกระทบทางการเงิน การมีส่วนร่วมกับผู้ส่งมอบในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม การสร้างกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการจากประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ค้นพบซึ่งควรครอบคลุมแผนการเปลี่ยนผ่านที่มีนัยสำคัญ การสร้างสรรค์และได้รับประโยชน์จากโครงการริเริ่มและผลิตภัณฑ์สีเขียวใหม่ ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม
การลงมือทำตามข้อแนะนำดังกล่าว จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับกิจการในการปกป้องผลกระทบทางการเงินที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และสามารถคว้าโอกาสการเติบโตในตลาดเกิดใหม่ได้อย่างเต็มที่
จากบทความ 'Sustainpreneur' ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

No comments:
Post a Comment