Tuesday, March 27, 2007

พอเพียงแล้วห้ามกู้เงินหรือไม่

คำถามหนึ่งที่ถูกถามบ่อยมาก คือ ทำเศรษฐกิจพอเพียงแล้วห้ามกู้เงินหรือเปล่า หรือมีหนี้ไม่ได้หรือเปล่า ผมขออัญเชิญพระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 4 ธันวาคม 2542 มีใจความว่า
“แต่ว่าพอเพียง ในทฤษฎีหลวงคือ ให้สามารถดำเนินงานได้ แต่ที่ว่าเมืองไทยไม่ใช้เศรษฐกิจพอเพียง นี่ไม่ได้ตำหนิ ไม่เคยพูด นี่พูดในตอนนี้ พูดเวลานี้ ขณะนี้ว่าประเทศไทย ไม่ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ค่อนข้างจะแย่ เพราะว่าจะทำให้ล่มจม เศรษฐกิจพอเพียงที่หมายถึงนี้ คือว่า อย่างคนที่ทำธุรกิจ ก็ย่อมต้องไปกู้เงิน เพราะว่าธุรกิจ หรือกิจการอุตสาหการสมัยใหม่นี้ คนเดียวไม่สามารถที่จะรวบรวมทุนมาสร้างกิจการ กิจกรรมที่ใหญ่ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้กิจกรรมที่ใหญ่”

เศรษฐกิจพอเพียงที่หมายถึงนี้ คือ อย่างคนที่ทำธุรกิจก็ย่อมต้องไปกู้เงิน เพราะว่าธุรกิจ หรือกิจกรรมที่มีขนาดใหญ่ คนเดียวไม่สามารถที่จะรวบรวมทุนมาดำเนินการเองได้ทั้งหมด ธุรกิจขนาดใหญ่จึงจำเป็นที่จะต้องมีการกู้ยืมเงินมาดำเนินกิจการได้ ฉะนั้น ชัดเจนว่าเศรษฐกิจพอเพียง มิได้ปฏิเสธการกู้เงิน หรือการสร้างหนี้ และยังมีพระราชดำรัสองค์ที่อัญเชิญต่อมา อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า
“การกู้เงินที่นำมาใช้ในสิ่งที่ไม่ทำรายได้นั้นไม่ดี อันนี้เป็นข้อสำคัญ เพราะว่าถ้ากู้เงินและทำให้มีรายได้ ก็เท่ากับจะใช้หนี้ได้ ไม่ต้องติดหนี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ ... อันนี้ เป็นสิ่งที่จะต้องสอนว่า กู้เงิน เงินนั้นจะต้องให้เกิดประโยชน์ มิใช่กู้สำหรับไปเล่น ไปทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์”

แม้เศรษฐกิจพอเพียงจะมิได้ปฏิเสธเรื่องของการกู้ยืมเงิน แต่ก็ทราบดีว่า คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีปัญหาเรื่องหนี้สินมากกว่าที่คิด เพราะสังคมในทุกวันนี้เป็นสังคมที่กระตุ้นเรื่องของการบริโภค ซ้ำยังมีเครื่องไม้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ ออกมาเกื้อหนุนให้ตัดสินใจซื้อสินค้าโดยให้มีอุปสรรคน้อยที่สุด ในองค์กรหลายๆ แห่ง จึงมีพนักงานที่มีปัญหาเรื่องหนี้บัตรเครดิตมากมาย อันที่จริงแล้ว การมีบัตรเครดิตไม่ใช่เรื่องที่ขัดกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง แต่การพิจารณาตัดสินใจใช้จ่ายในสิ่งของแต่ละรายการในบัตรเครดิตนั้นต่างหาก ที่จะเป็นหรือไม่เป็นเศรษฐกิจพอเพียง... (อ่านรายละเอียดในคอลัมน์ พอเพียงภิวัตน์) External Link [Archived]

No comments: