บ่อยครั้ง ผู้รับผิดชอบเรื่อง CSR ที่มิได้ศึกษาเนื้อหาถ่องแท้ พอหยิบคำว่า CSR มาพิจารณา เห็นมีคำว่า ‘สังคม’ อยู่ในศัพท์ เลยพลันชี้นิ้วออกไปข้างนอกองค์กร ตามความคุ้นชินว่า สังคม คือ ชุมชน คือ ชาวบ้าน ที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็เลยกลายเป็นกับดักขององค์กรหน้าใหม่หรือผู้ดูแลคนใหม่ ในการตั้งโจทย์ให้ CSR เท่ากับการออกไปช่วยเหลือชุมชน หรือไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน
อันที่จริง การมีส่วนร่วมและพัฒนาชุมชน เป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของเรื่อง CSR ถ้าเอาตามมาตรฐาน ISO26000 ที่ว่าด้วยเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม การมีส่วนร่วมและพัฒนาชุมชน เป็นเพียงหนึ่งในเจ็ดหัวเรื่องหลัก (Core Subjects) ที่ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ แสดงว่า ยังมีอีกถึงหกเรื่องหลักที่องค์กรควรดำเนินการเช่นกัน
ต้องเข้าใจว่า สังคม ในบริบทของ CSR ประกอบด้วย สังคมภายในองค์กร (ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ฯ) และสังคมภายนอกองค์กร ซึ่งยังแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ สังคมใกล้ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรโดยตรง (ลูกค้า คู่ค้า ชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบการ หน่วยงานรัฐหรือองค์กรอิสระที่เป็นผู้กำกับดูแล ฯ) และสังคมไกล หรือผู้ที่มิได้เกี่ยวข้องกับองค์กรโดยตรง (คู่แข่งขันทางธุรกิจ หน่วยราชการในท้องที่ ชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรวม ฯ)
ฉะนั้น หากผู้ที่ดูแล CSR ยังยืนยันว่าเรื่อง CSR ต้องทำที่ สังคม ก็ต้องเรียนว่า ขอบเขตของการดำเนินการ จำเป็นต้องหยิบยกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งที่เป็นสังคมภายในองค์กรและสังคมภายนอกองค์กร หรือเรียกว่าเป็น ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ของกิจการมาพิจารณาอย่างครอบคลุมรอบด้าน
นี่จึงเป็นที่มาว่า CSR ตามมาตรฐาน ISO26000 ในอีกหกเรื่องหลัก ได้แก่ การกำกับดูแลองค์กร สิทธิมนุษยชน การปฏิบัติด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม การปฏิบัติดำเนินงานอย่างเป็นธรรม และประเด็นด้านผู้บริโภค เกี่ยวข้องกับการพิจารณาดำเนินการกับเหล่าผู้มีส่วนได้เสียของกิจการนั่นเอง
ในทางปฏิบัติ ผู้ดูแลงาน CSR หลายองค์กร มักถูกกำหนดบทบาทการทำงานให้จำกัดอยู่ที่การมีส่วนร่วมและพัฒนาชุมชน เนื่องเพราะเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูง เข้าใจผิดว่า โจทย์งาน CSR เท่ากับการออกไปช่วยเหลือชุมชน ทำให้การดำเนินงาน CSR ขององค์กรไปไม่ถึงไหน หรือหาความยั่งยืนไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ การสร้างความเข้าใจให้กับเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูงในเรื่องขอบเขตงาน CSR จึงเป็นเรื่องสำคัญต่อการมอบหมายงานและขับเคลื่อนเรื่อง CSR ให้ประสบผลสำเร็จ
เมื่อองค์กรทราบขอบเขตของงาน CSR ตามที่ควรจะเป็นแล้ว ข้อคำถามที่ว่า จะทำ CSR ที่ไหนดี ผู้ดูแลงาน CSR จะพบกับคำตอบว่า ก็ควรเริ่มจากที่ซึ่งมีผลกระทบเกิดขึ้นจากการประกอบการ (หรือที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการประกอบการ)
ผลกระทบ ในที่นี้ เป็นได้ทั้ง ด้านบวก-ด้านลบ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน-ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทางตรง-ทางอ้อม ระยะสั้น-ระยะยาว โดยเจตนา-โดยไม่เจตนา และสามารถเกิดขึ้นทั้งในองค์กรและนอกองค์กรหรือทั้งสองกรณี
ความสามารถในการระบุพิกัด (Where) หรือบริเวณที่ผลกระทบเกิดขึ้น (หรือคาดว่าจะเกิดขึ้น) เพื่อนำมาจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ เป็นกลไกที่ทำให้การขับเคลื่อนเรื่อง CSR สัมฤทธิ์ผล ภายใต้เงื่อนไขของงบประมาณ ข้อจำกัดทางทรัพยากร และระยะเวลาที่ใช้สำหรับดำเนินการ เพราะองค์กรไม่สามารถทำได้ทุกเรื่อง แต่สามารถทำให้ถูกเรื่องได้
เมื่อองค์กรรู้ชัดว่า ควรทำ CSR ที่ไหน ได้อย่างตรงจุด ก็หมายความว่า ขอบเขตการดำเนินงานทางสังคมได้รับการพิจารณาอย่างรอบด้าน ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องได้รับการตอบสนอง ผลกระทบจากการประกอบการที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสียได้รับการจัดการหรือดูแลแก้ไข ปัญหาเรื่องความยั่งยืนที่องค์กรเพรียกหา ก็จะหมดไปโดยปริยาย
จากบทความ 'Sustainpreneur' ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

No comments:
Post a Comment