Thursday, October 02, 2014

การลงทุนเป็นโอกาส ผู้ลงทุนควร...

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ลงนามเข้าร่วม UN Sustainable Stock Exchanges (SSE) Initiative เป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 13 แห่ง รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก และตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เพื่อประกาศเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาและส่งเสริมให้องค์กรและผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มดำเนินงานโดยยึดหลักความยั่งยืน เป็นไปตามหลักบรรษัทภิบาล คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการมุ่งสนับสนุนเรื่องการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ

UN SSE Initiative เป็นความริเริ่มร่วมกันระหว่างองค์การสากลแห่งสหประชาชาติ 4 แห่ง ได้แก่ หลักการสหประชาชาติว่าด้วยการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (UNPRI) การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ความริเริ่มด้านการเงินภายใต้สำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP-FI) และข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) เพื่อใช้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าร่วม ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงวิธีการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล และบริษัทจดทะเบียน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในองค์กร โดยเฉพาะการดำเนินงานในประเด็นสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนที่ยั่งยืน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับเป็นตลาดหลักทรัพย์รายแรกในอาเซียนที่เข้าร่วม UN SSE Initiative โดยจะมีกำหนดการแถลงต่อที่ประชุม Sustainable Stock Exchanges Global Dialogues เดินหน้าเพื่อพัฒนาความยั่งยืนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2557 ณ องค์การสหประชาชาติ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์

ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล ได้มีการประกาศโรดแมปการพัฒนาความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2557-2561) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนตามเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญใน 3 ด้าน คือ CG in substance: เสริมสร้างให้คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนสร้างผลการดำเนินงานที่ดีให้กิจการอย่างยั่งยืนและน่าเชื่อถือโดยเน้นการปฏิบัติอย่างจริงจัง CSR in process: การดำเนินธุรกิจปกติประจำวันของบริษัทจดทะเบียนเป็นไปด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นแรงผลักดันให้ภาคเอกชนอื่นดำเนินการด้วย และ Anti-corruption in practice: บริษัทจดทะเบียนเป็นบริษัทต้นแบบที่มีแนวปฏิบัติอย่างจริงจังและสร้างวัฒนธรรมการไม่คอร์รัปชันให้ภาคธุรกิจไทยได้

ล่าสุด ในฝั่งของบริษัทจดทะเบียน สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนไทยที่เข้าเป็นสมาชิกราว 478 บริษัท ดำเนินกิจกรรมผ่าน 5 ชมรม ได้แก่ ชมรม CSR ชมรมนักลงทุนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ชมรมเลขานุการบริษัทไทย ชมรมบริหารความเสี่ยง และชมรม HCM (Human Capital Management) โดยภายใต้ชมรม CSR ได้มีการจัดทำแผนกลยุทธ์ที่จะส่งเสริมและพัฒนาบริษัทจดทะเบียนสมาชิกในแนวทาง CSR in process การผนวกการพัฒนาความยั่งยืนเข้าในกลยุทธ์องค์กร และการสร้างคุณค่าร่วม ที่สอดคล้องกับทิศทางในแผนการพัฒนาความยั่งยืนของสำนักงาน ก.ล.ต.

สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ คือ การพัฒนาในฝั่งของผู้ลงทุน ต่อการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ ที่ไม่ใช่เพื่อผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่มีการพิจารณาถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะผู้ลงทุนประเภทสถาบัน หรือผู้จัดการลงทุนซึ่งทำหน้าที่ดูแลการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน จำเป็นต้องมีแนวปฏิบัติสำหรับการลงทุนที่ดี ใช้ข้อมูลการดำเนินงานในประเด็นสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG ที่กิจการเปิดเผย ประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบด้าน

เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา เม็ดเงินจากกลุ่มผู้ลงทุนที่คำนึงถึงเรื่อง ESG มีจำนวนราว 3.74 ล้านล้านเหรียญ หรือคิดเป็นร้อยละ 11.3 ของเม็ดเงินลงทุนทั้งหมดซึ่งมีอยู่ประมาณ 33.3 ล้านล้านเหรียญในปัจจุบัน หรือเทียบได้ว่า ในทุกๆ 9 เหรียญเงินลงทุน จะมี 1 เหรียญที่ลงทุนโดยใช้เกณฑ์ ESG ในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุน

บริษัทจัดทำข้อมูลหลักทรัพย์รายใหญ่ระดับโลก อาทิ เอสแอนด์พี ดาวโจนส์ ฟุตซี่ เอ็มเอสซีไอ ต่างมีการพัฒนาดัชนีด้านความยั่งยืนโดยใช้ข้อมูล ESG เป็นฐานในการคำนวณ การที่บริษัทจดทะเบียนไทยมีการเปิดเผยข้อมูล ESG เพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนไทยได้เข้าอยู่ในดัชนีเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกใน DJSI ประจำปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 10 บริษัท ได้แก่ BANPU, CPN, IRPC, MINT, PTT, PTTEP, PTTGC, SCC, TOP, TUF

จากคำเตือนที่ได้ยินอยู่เสมอว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” อีกหน่อยคงจะมีคำขวัญมาตีคู่ว่า “การลงทุนเป็นโอกาส ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ESG ก่อนการตัดสินใจลงทุน”...(จากคอลัมน์ หน้าต่าง CSR) External Link [Archived]

No comments: